บริการให้เช่ารถยนต์ราคาถูก

บริการรถยนต์ให้เช่า รถใหม่ สะอาด เลขไมล์น้อย มีรถให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน รถทุกคันผ่านการตรวจสอบ มีมาตรฐานความปลอดภัย รถทุกคันเป็นเกียร์ออโต้ ขับง่าย สะดวกสบายทุกการขับขี่ 
 
  • เช่ารถระยะสั้น
  • เช่ารถระยะยาว
  • เช่ารถพร้อมคนขับ
รายการทั้งหมด

ทีมงาน และบรรยากาศ

PROJECT MANEGER

คุณเกสร

SALES COORDINATOR

คุณไกรลาส

SALES COORDINATOR

คุณ นิศรา

VDO
Praesentation

สนใจติดต่อทีมงานมืออาชีพ พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง

รีวิวลูกค้าจริง K-CARRENT

ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่รีวิวให้ ทางเราจะพัฒนาการให้บริการดียิ่งขึ้นค่ะ

คุณจ๊อบ

" รถสวยสะอาดมีให้เลือกบริการเยอะมาก ราคากันเองครับ "

26 พ.ย. 2558

คุณส้ม

" ทีมงานให้คำปรึกษาดีมาก รถมีประกันชั้น 1 อีกด้วยขับขี่ปลอดภัยสุดๆค่ะ "

10 ม.ค. 2563

คุณจุ้ย

" รถมีให้เลือกใช้เยอะมากไม่ว่าจะคันเล็กคันใหญ่ได้ทั้งหมด ขับขี่ทางไกลไม่ต้องกังวลนั่งแออัดเลยค่ะ "

26 พ.ย. 2558

บริการให้เช่ารถยนต์ ราคาถูก

บริการรถยนต์ให้เช่า รถใหม่ สะอาด เลขไมล์น้อย มีรถให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน รถทุกคันผ่านการตรวจสอบ มีมาตรฐานความปลอดภัย รถทุกคันเป็นเกียร์ออโต้ ขับง่าย สะดวกสบายทุกการขับขี่ 

เทรนด์รถเช่า ในมุม ASAP

เช่ารถรายชั่วโมง” ตลาดนี้น่าสนใจ!!
 
คุณทรงวิทย์ เล่าว่า อีกเทรนด์ที่จะเริ่มเห็นมากขึ้น คือ “เช่ารถยนต์รายชั่วโมง” ที่ผ่านมามีลูกค้าหลายคนถามถึงบริการนี้ เราจึงตอบสนองคนกลุ่มนี้ ด้วยการทำแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน asap GO ภายใต้คอนเซ็ป Pay per use (ใช้เท่าไรจ่ายเท่านั้น) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำการเช่าและปลดล็อครถยนต์ผ่านแอพเลิเคชั่นได้ด้วยตัวเอง
 
เมื่อหลายปีก่อน เรามีความเชื่อว่า การเช่ารถยนต์ระยะสั้นจะได้รับความนิยมมากขึ้นเลยตัดสินใจเข้าสู่ “บริการรถเช่าระยะสั้นในสนามบินนานชาติทั่วประเทศไทย” ด้วยการตั้งจุดบริการในสนามบินนานาชาติทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสนามบินเชียงราย เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา แต่ด้วยต้นทุนค่าเช่าตั้งจุดบริการที่ค่อนข้างแพง เราจำเป็นต้องปรับแผนเติบโตใหม่!!!
 
ด้วยการนำที่ดินย่านบางนา-ตราด พื้นที่ 4 ไร่ ที่ซื้อมานานกว่า 3 ปี มาพัฒนาเป็น “ศูนย์รวมการให้บริการรถยนต์แบบครบวงจร asap Auto Park” มูลค่าเงินลงทุน 150-160 ล้านบาท ซึ่งจุดบริการนอกสนามบินแห่งนี้จะทำหน้าที่ทั้งปล่อยเช่ารถยนต์ระยะสั้นและจำหน่ายรถยนต์มือสองที่ครบสัญญาเช่า
 
จากการรุกธุรกิจระยะสั้นในช่วงกว่าสองปีที่ผ่านมา ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า เราเดินมาถูกทาง!!!  แม้วันนี้เราจะยังติดลบจากการให้บริการรถยนต์ระยะสั้น แต่กลุ่ม B2C ถือเป็นตลาดที่ทำแล้วสนุกและเหนื่อยไปพร้อมๆกัน ที่ผ่านมา เราได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วไป หลายคนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น
 
แต่เรายังคงต้องสร้างตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เรื่องที่ประสบความสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง คือ  การจองรถยนต์ผ่านตลาดท่องเที่ยวออนไลน์ (online travel agent) หรือ OTA ที่ผ่านมามียอดเช่ารถยนต์ระยะสั้นจาก OTA คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 70% (มีทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ ลูกค้าต่างประเทศอันดับหนึ่ง คือ จีน รองลงมาเป็นมาเลเซีย)
 
วันนี้บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากบริการรถเช่าระยะสั้นเฉลี่ย 5% ตามแผนงานภายใน 5 ปีข้างหน้า (2560-2564) ต้องขยับเป็น 20% เราเชื่อมั่นว่า “ทำได้แน่นอน” เพราะเป้าหมายที่ต้องการจะมีพอร์ตรถยนต์ให้เช่า 20,000 คัน ภายในปี 2564 คาดว่าจะได้เห็นเร็วขึ้นเป็นภายในปี 2562 ปัจจุบันมีพอร์ตรถยนต์อยู่ในมือประมาณ 18,000 คัน (พอร์ตรถยนต์ให้เช่าของ ASAP มีมากกว่าเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรม)
 
ปัจจุบันเมืองไทยมีผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ 4 ราย คือ กลุ่มบริษัทอาคเนย์ ,บมจ.ภัทรลิสซิ่ง ,บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด (ของประเทศญี่ปุ่น) และบริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด ส่วน asap ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีประสบการณ์มายาวนาน เพราะครอบครัวฐิติปุญญา ทำธุรกิจกับโตโยต้ามานาน 50 ปี ส่วนตัวเองทำดีลเลอร์ให้โตโยต้ามา 16 ปี โดยปล่อยเช่ารถยนต์โตโยต้าสัดส่วน 90% เพราะหาซัพพลายง่าย และมีต้นทุนที่แข่งขันได้
 
เพราะนอกจาก asap จะมีรถยนต์ปล่อยเช่าระยะสั้นมากขึ้น จากเดิมที่มีรถยนต์ระยะสั้นปล่อยเช่าประมาณ 700 คันแล้วระบบแฟรนไชส์ยังช่วยทำให้การจำหน่ายรถยนต์มือสองคล่องตัวมากขึ้น เพราะแต่ละปีจะมีรถยนต์กลับมาให้ขายเฉลี่ย 1 พันคัน รถยนต์ของเรามีอายุการใช้งานเฉลี่ย 4-5 ปี แต่ในอนาคตจะมีรถยนต์กลับมาให้ขายมากกว่า 5 พันคัน เพราะปีก่อนซื้อรถยนต์เข้าพอร์ต 6 พันคัน และในปี 2562 จะซื้อรถยนต์อีกไม่เกิน 4 พันคัน ราคาคันละ 8 แสนบาท มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
 
ตามแผนในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2562-2564) จะต้องมีผู้ซื้อแฟรนไชส์ “asap Select” ประมาณ 30 ราย เป้าหมายนี้ขยับมาเร็วขึ้น จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ภายใน 5 ปี เนื่องจากรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในช่วงปี 2562-2563 จะเติบโตได้ดี ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยว ด้วยสายการบินชั้นประหยัดมากขึ้น
 
ผ่านมา 4 เดือน เรามีผู้ซื้อแฟรนไชส์ชุดแรกแล้ว 5 ราย กระจายตัวอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ขอไฮสปีดเทรน ไล่มาตั้งแต่กรุงเทพ นนทบุรี นครราชสีมา อุบลราชธานี และเชียงใหม่ ซึ่งโมเดลนี้จะช่วยลดต้นทุนการเช่าพื้นที่ในสนามบินที่แพงมาก (ผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ IRR การทำระบบแฟรนไชส์อยู่ระดับ 20%)
 
เราเป็นคนแรกและคนเดียวในเมืองไทยที่ทำระบบแฟรนไชส์รถเช่าระยะสั้นและจำหน่ายรถยนต์มือสอง โดยผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่ต้องลงทุนซื้อรถยนต์แม้แต่บาทเดียว แต่เราจะนำรถยนต์ไปวางขายให้เลย ได้เงินมาเท่าไร ก็เอามาแบ่งเงินกัน 40:60 ซึ่งเป้าหมายการขายและเช่าของเราไม่โหดทุกคนอยู่ได้
 
“โมเดลแฟรนไชส์นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้นแล้วนักลงทุนก็จะรู้ด้วยว่า ดีเอ็นเอของเราไม่ใช่บริษัทรถเช่า แต่เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเซอร์ริสรถยนต์ครบวงจรที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 30%” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยืนยัน
 
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินว่า แนวโน้มกำไรใน 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 2562 คาดว่าจะเห็นพัฒนาการกำไรที่ดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่กำไรโดนกดดันจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาที่บริษัทขยาย Fleet รถเพิ่มขึ้นถึง 6,000 คัน ในปี 2561 ทำให้เกิด Revenue cost mismatching เพราะการปล่อยรถเช่านั้นเป็นธุรกิจที่จะมีกำไรที่ดีในช่วงครึ่งหลังของอายุรถ (Back-load profit project)
 
โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยาย fleet รถเพียงแค่ 3,000 คัน เพราะปัจจุบันบริษัทมีรถใน fleet ถึง 17,000 คัน ซึ่งบริษัทเข้าถึงจุดที่ได้ economy of scale แล้ว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายประกันภัย ซึ่งเป็นค่าใช่จ่ายจำนวนมาก ปัจจุบันบริษัทได้ผู้บริหารท่านใหม่ ซึ่งเข้ามาดูแลเรื่องงานประกันภัยโดยเฉพาะ คาดจะลดต้นทุนค่าประกันภัยได้ประมาณ 10-15% (30-40 ล้านบาท) คาดเห็นผลในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562
 
“กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “รอสะสม” เมื่อเห็นแนวโน้มงบการเงินไตรมาส 2 ปี 2562 ผ่านจุดต่ำสุด (รอดู Earnings preview ช่วงกลางเดือนกค.อีกครั้ง) เรามองว่า Downside เริ่มจำกัดแล้ว ด้วยราคาปัจจุบันลงมาเท่า Book value”
 
อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://knowledge.bualuang.co.th/knowledge-base/maojummaiasap/
 
26 เม.ย. 2565

สายมูต้องรู้! สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด สีไหนรุ่ง สีไหนปังเช็กเลย

ใครที่กำลังมีแพลนจะออกรถใหม่รับปี 2564 นอกจากจะดูฤกษ์วันออกรถแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือดูสีรถให้ถูกโฉลกกับตัวเอง เพื่อเสริมดวงชะตา ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าควรออกรถสีไหน เชียงใหม่นิวส์ได้รวบรวมไว้ให้ทุกด้านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสีช่วยเสริมเสน่ห์ เงินทอง สุขภาพ อำนาจบารมี และอีกมากมายให้ได้ตัดสินใจกัน ถ้าหากใครกำลังจะออกรถเร็ว ๆ นี้ เชียงใหม่นิวส์ขอให้ขับขี่ปลอดภัย เป็นรถขนเงิน ขนทองกันถ้วนหน้าเลยนะคะ
 
คนเกิดวันอาทิตย์
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีบรอนซ์ สีเทา สีทอง เสริมดวงเรื่องเมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ การสนับสนุนเกื้อกูล
– รถสีเขียว เสริมดวงให้คนรักเมตตา อุปถัมภ์ค้ำชู ช่วยเหลือทำให้สะดวกราบรื่นในเรื่องต่าง ๆ
– รถสีม่วงเปลือกมังคุด เสริมดวงด้านศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และดวงเรื่องการเงิน
– รถสีดำ เสริมความน่าเคารพนับถือ เสริมดวงเรื่องทรัพย์สินเงินทอง การเงิน
– รถสีแดงก่ำหรือสีแดงเลือดหมู เสริมสง่าราศี มากด้วยบุญญาบารมี มีอำนาจวาสนา คนนบนอบยำเกรง
– รถสีขาว สีครีม เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีฟ้า สีน้ำเงิน เพราะเป็นกาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันจันทร์
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีชมพู เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีเขียว อำนาจวาสนา บารมี เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับบัญชาคน
– รถสีม่วงเปลือกมังคุด เสริมดวงด้านความสะดวกราบรื่นทุกอย่าง
– รถสีดำ เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีส้ม สีเหลืองแก่ เสริมดวงเรื่องการเงิน ความมั่นคง ทุนทรัพย์ ราคาและคุณค่าที่จะเพิ่มพูนให้แก่ตนเองในปัจจุบันและภายภาคหน้า
– รถสีน้ำเงิน สีทอง เสริมเสน่ห์ ผู้ใหญ่รักเมตตาและเอ็นดู มีแต่สิ่งที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
– รถสีฟ้า เสริมดวงให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
สีที่ห้ามออก ได้แก่
– รถสีแดง เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันอังคาร
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีม่วงแก่ เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีดำ เสริมดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับ
– รถสีบรอนซ์ สีเทา เสริมความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ
– รถสีทอง สีแสด เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีน้ำตาล เสริมดวงด้านความมั่นคงในชีวิต เช่นมั่นคงเรื่อง หลักทรัพย์ ทรัพย์สิน หน้าที่การงาน
– รถสีเขียว เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง
– รถสีแดง สีชมพู เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีขาว สีเหลืองนวล เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันพุธกลางวัน (06.01 – 18.00 น.)
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีน้ำเงิน สีฟ้า เสริมดวงด้านความเคารพนับถือ ยกย่องยอมรับ
– รถสีน้ำตาล สีทอง เสริมดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับ
– รถสีขาว สีเหลืองอ่อน เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีดำ เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีม่วงแก่ เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีเขียว เสริมดวงด้านเสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
สีที่ห้ามออก ได้แก่
– รถสีชมพู สีแสด เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันพุธกลางคืน (18.01 – 06.00 น.)
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีชมพู เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ
– รถสีดำ เสริมดวงด้านความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน
– รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีม่วงแก่ เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีน้ำเงิน สีฟ้า เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีแดง สีน้ำตาล เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีส้ม สีทอง เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันพฤหัสบดี
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีขาว เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ
– รถสีแดง เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีฟ้า เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีเขียว เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีส้ม สีทอง เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีดำ สีม่วง สีน้ำเงิน เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันศุกร์
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีเขียว เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ
– รถสีแดง สีทอง เสริมดวงด้านความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน
– รถสีแดง สีชมพู เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีเหลือง เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีดำ เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีน้ำตาล เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีฟ้า สีน้ำเงิน เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีเทา สีบรอนซ์ สีม่วง เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันเสาร์
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีแดง เสริมดวงให้คนยอมรับเชื่อถือและไว้วางใจ
– รถสีชมพู เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีน้ำเงิน สีฟ้า เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีทอง สีเหลือง เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีดำ สีม่วงแก่ เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีเขียว สีแสด เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1551970/
26 เม.ย. 2565

ขับรถฝนตกหนัก เทคนิคการขับรถลุยฝนอย่างไรให้ปลอดภัย

ทุกวันนี้อุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนในบ้านเรานั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการขับขี่ รถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซค์ ด้วยความประมาท แต่อีกสาเหตุหนึ่งก็คือเรื่องของฟ้าฝน โดยเฉพาะสภาพอากาศในบ้านเราที่ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ก็อาจเกิดฝนตกได้ทุกเมื่อ ซึ่งส่งผลให้ถนนลื่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ลดลง ควบคุมรถได้ยากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม การขับรถตอนฝนตกก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หรือเรื่องที่ต้องกังวลหากเรารู้เทคนิคที่ถูกต้อง ซึ่งเทคนิคเหล่านี้แม้ฝนไม่ตกก็สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน   
 
สิ่งที่ควรทำเมื่อต้องขับรถตอนฝนตกหนัก
1. ลดความเร็ว
นี่คือสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อต้องขับรถตอนฝนตก โดยเฉพาะฝนที่เพิ่งตกใหม่ ๆ เพราะฝนจะลงมาผสมกับคราบน้ำมันหรือฝุ่นต่าง ๆ บนพื้นถนน ซึ่งอาจทำให้มีความลื่นมากกว่าแค่พื้นเปียกธรรมดา การขับรถให้ช้าลงจะช่วยให้สามารถควบคุมรถ หรือการเบรกก็จะทำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
 
2. เปิดไฟส่องสว่าง
หากต้องขับรถตอนฝนตกหนัก ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง ควรเปิดไฟหน้าเพื่อเพิ่มการมองเห็นทางด้านหน้า เพื่อให้รถคันที่ตามหลังสังเกตเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ควรใช้ไฟสูงหรือไฟตัดหมอก
 
3. เว้นระยะห่างให้มากขึ้น
เดิมทีในการขับรถปกติเราต้องเว้นระยะจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉิก แต่ขณะที่ฝนตกเราจำเป็นต้องเพิ่มระยะห่างมากเป็น 2 เท่า เผื่อระยะในการเบรกบนพื้นถนนที่มีความลื่นมากขึ้น และยังเป็นการหลีกเลี่ยงน้ำที่อาจกระเด็นมาบดบังทัศนวิสัยการมองเห็นของเราได้
 
4. ใช้เบรกอย่างระมัดระวัง
เมื่อต้องขับรถในสภาพพื้นที่เปียก ระบบเบรกอาจไม่ตอบสนองได้ดีเหมือนกับตอนขับขี่บนพื้นถนนที่แห้ง การเหยียบเบรกแบบกะทันหันอาจไม่ใช่เรื่องที่ดี เราควรจะใช้การชะลอความเร็วช่วยแล้วค่อย ๆ แตะเบรกทีละนิดเพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
 
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อต้องขับรถตอนฝนตก
1. ไม่เปิดไฟผ่าหมากหรือไฟฉุกเฉิน
ความเชื่อผิด ๆ ที่หลายคนชอบทำเมื่อต้องขับรถตอนฝนตกนั่นคือ การเปิดไฟผ่าหมาก หรือไฟฉุกเฉิน เพื่อให้รถคันอื่น ๆ สังเกตเห็นเราได้ชัดเจนขึ้น แต่จริง ๆ แล้วคือสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะไฟฉุกเฉินควรเปิดเฉพาะเวลาที่รถเกิดปัญหาเท่านั้น ไม่ควรเปิดตอนฝนตกหนัก เพราะอาจทำให้รถคันอื่นเข้าใจผิดได้ (คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมาก ควรเปิดตอนไหน ใช้อย่างไรไม่ผิดกฎหมาย)
 
2. หลีกเลี่ยงการขับลงแอ่งน้ำ
ถนนในบ้านเราส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาน้ำขังทุกครั้งที่ฝนตก ซึ่งอาจเกิดจากขยะอุดตันท่อระบายน้ำ หรือถนนชำรุดเป็นหลุม-บ่อ เราจึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถลงแอ่งน้ำดังกล่าวเพื่อป้องกันรถเหินน้ำ หรือน้ำกระเด็นไปบดบังการมองเห็นของผู้ร่วมทางและผู้ใช้ทางเท้า
 
3. ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศเมื่อต้องลุยน้ำ
ทุกครั้งที่ต้อง ขับรถลุยน้ำ ที่มีความลึก เราควรที่จะปิดเครื่องปรับอากาศหรือระบบไฟฟ้าต่าง ๆ และถ้าหากเครื่องยนต์ดับระหว่างขับลุยน้ำ เราไม่ควรสตาร์ตเครื่องในทันทีเพราะเครื่องยนต์อาจเกิดความเสียหายได้ 
 
4. อย่าชะล่าใจแม้ใช้ยางรถยนต์แบบลุยน้ำได้ดี
บางคนอาจมั่นใจในคุณสมบัติของยางรถยนต์ที่เราใช้ว่ามีคุณสมบัติยึดเกาะและรีดน้ำได้เป็นอย่างดี จึงยังคงใช้ความเร็วสูงแม้ฝนตก แต่ไม่ว่ายางจะมีคุณสมบัติที่ดีแค่ไหน หากเราขับเร็วจนเกินไปก็อาจลื่นไถลหรือเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน
 
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ต้องขับขี่ยานพาหนะต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพถนนแห้ง หรือถนนเปียก เราก็ควรใช้ความระมัดระวัง ไม่ประมาท เคารพกฎจราจร มีน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง และไม่ควรใช้ความเร็วสูงจนเกินไป ควรใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ก็สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน รวมถึงยังต้องเตรียมตรวจสอบสภาพรถให้พร้อม เช็กรถหน้าฝน เพื่อความมั่นใจในระหว่างการเดินทาง
 
อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://car.kapook.com/view240558.html
 
26 เม.ย. 2565

ติดต่อเรา

71/2-13 โครงการโอโซนพลาซ่า ห้อง H1C,H2C ถนนคู้บอน แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงทพฯ 10230

Our Phone

Facebook

Our Line

ส่งข้อความหาเรา

ลูกค้าสามารถพิมพ์ข้อความที่ต้องการสอบถามได้จากฟอร์มด้านล่าง เมื่อทีมงานได้รับข้อความแล้ว จะติดต่อกลับลูกค้าโดยเร็วที่สุด

รถขนาดใหญ่

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถขนาดมาตรฐาน

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถขนาดกลาง

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถขนาดกะทัดรัด

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถขนาดเล็ก

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถอีโคโนมี่

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถตู้โดยสาร

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถเอสยูวีขนาดใหญ่

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถเอสยูวีขนาดกลาง

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถเอสยูวีขนาดกะทัดรัด

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถตู้ vip 15 ที่นั่ง

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

รถลีมูซีน

บริการรถยนต์ให้เช่าทั่วประเทศไทย มีรถให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เลือกรถที่เหมาะสมกับงบประมาณได้ อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก เหมาะสมหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องมีรถเอง ก็สามารถเช่าไปขับได้ รถเป็นรุ่นใหม่ ภายในสะอาด เลขไมล์น้อย มีประกันชั้น 1 ให้ทุกคัน มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

เทรนด์รถเช่า ในมุม ASAP

เช่ารถรายชั่วโมง” ตลาดนี้น่าสนใจ!!
 
คุณทรงวิทย์ เล่าว่า อีกเทรนด์ที่จะเริ่มเห็นมากขึ้น คือ “เช่ารถยนต์รายชั่วโมง” ที่ผ่านมามีลูกค้าหลายคนถามถึงบริการนี้ เราจึงตอบสนองคนกลุ่มนี้ ด้วยการทำแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน asap GO ภายใต้คอนเซ็ป Pay per use (ใช้เท่าไรจ่ายเท่านั้น) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถทำการเช่าและปลดล็อครถยนต์ผ่านแอพเลิเคชั่นได้ด้วยตัวเอง
 
เมื่อหลายปีก่อน เรามีความเชื่อว่า การเช่ารถยนต์ระยะสั้นจะได้รับความนิยมมากขึ้นเลยตัดสินใจเข้าสู่ “บริการรถเช่าระยะสั้นในสนามบินนานชาติทั่วประเทศไทย” ด้วยการตั้งจุดบริการในสนามบินนานาชาติทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสนามบินเชียงราย เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา แต่ด้วยต้นทุนค่าเช่าตั้งจุดบริการที่ค่อนข้างแพง เราจำเป็นต้องปรับแผนเติบโตใหม่!!!
 
ด้วยการนำที่ดินย่านบางนา-ตราด พื้นที่ 4 ไร่ ที่ซื้อมานานกว่า 3 ปี มาพัฒนาเป็น “ศูนย์รวมการให้บริการรถยนต์แบบครบวงจร asap Auto Park” มูลค่าเงินลงทุน 150-160 ล้านบาท ซึ่งจุดบริการนอกสนามบินแห่งนี้จะทำหน้าที่ทั้งปล่อยเช่ารถยนต์ระยะสั้นและจำหน่ายรถยนต์มือสองที่ครบสัญญาเช่า
 
จากการรุกธุรกิจระยะสั้นในช่วงกว่าสองปีที่ผ่านมา ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า เราเดินมาถูกทาง!!!  แม้วันนี้เราจะยังติดลบจากการให้บริการรถยนต์ระยะสั้น แต่กลุ่ม B2C ถือเป็นตลาดที่ทำแล้วสนุกและเหนื่อยไปพร้อมๆกัน ที่ผ่านมา เราได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วไป หลายคนรู้จักแบรนด์เรามากขึ้น
 
แต่เรายังคงต้องสร้างตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เรื่องที่ประสบความสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง คือ  การจองรถยนต์ผ่านตลาดท่องเที่ยวออนไลน์ (online travel agent) หรือ OTA ที่ผ่านมามียอดเช่ารถยนต์ระยะสั้นจาก OTA คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 70% (มีทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ ลูกค้าต่างประเทศอันดับหนึ่ง คือ จีน รองลงมาเป็นมาเลเซีย)
 
วันนี้บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากบริการรถเช่าระยะสั้นเฉลี่ย 5% ตามแผนงานภายใน 5 ปีข้างหน้า (2560-2564) ต้องขยับเป็น 20% เราเชื่อมั่นว่า “ทำได้แน่นอน” เพราะเป้าหมายที่ต้องการจะมีพอร์ตรถยนต์ให้เช่า 20,000 คัน ภายในปี 2564 คาดว่าจะได้เห็นเร็วขึ้นเป็นภายในปี 2562 ปัจจุบันมีพอร์ตรถยนต์อยู่ในมือประมาณ 18,000 คัน (พอร์ตรถยนต์ให้เช่าของ ASAP มีมากกว่าเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรม)
 
ปัจจุบันเมืองไทยมีผู้ประกอบการให้เช่ารถยนต์ 4 ราย คือ กลุ่มบริษัทอาคเนย์ ,บมจ.ภัทรลิสซิ่ง ,บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด (ของประเทศญี่ปุ่น) และบริษัท ทรู ลีสซิ่ง จำกัด ส่วน asap ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีประสบการณ์มายาวนาน เพราะครอบครัวฐิติปุญญา ทำธุรกิจกับโตโยต้ามานาน 50 ปี ส่วนตัวเองทำดีลเลอร์ให้โตโยต้ามา 16 ปี โดยปล่อยเช่ารถยนต์โตโยต้าสัดส่วน 90% เพราะหาซัพพลายง่าย และมีต้นทุนที่แข่งขันได้
 
เพราะนอกจาก asap จะมีรถยนต์ปล่อยเช่าระยะสั้นมากขึ้น จากเดิมที่มีรถยนต์ระยะสั้นปล่อยเช่าประมาณ 700 คันแล้วระบบแฟรนไชส์ยังช่วยทำให้การจำหน่ายรถยนต์มือสองคล่องตัวมากขึ้น เพราะแต่ละปีจะมีรถยนต์กลับมาให้ขายเฉลี่ย 1 พันคัน รถยนต์ของเรามีอายุการใช้งานเฉลี่ย 4-5 ปี แต่ในอนาคตจะมีรถยนต์กลับมาให้ขายมากกว่า 5 พันคัน เพราะปีก่อนซื้อรถยนต์เข้าพอร์ต 6 พันคัน และในปี 2562 จะซื้อรถยนต์อีกไม่เกิน 4 พันคัน ราคาคันละ 8 แสนบาท มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
 
ตามแผนในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2562-2564) จะต้องมีผู้ซื้อแฟรนไชส์ “asap Select” ประมาณ 30 ราย เป้าหมายนี้ขยับมาเร็วขึ้น จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ภายใน 5 ปี เนื่องจากรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในช่วงปี 2562-2563 จะเติบโตได้ดี ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยว ด้วยสายการบินชั้นประหยัดมากขึ้น
 
ผ่านมา 4 เดือน เรามีผู้ซื้อแฟรนไชส์ชุดแรกแล้ว 5 ราย กระจายตัวอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ขอไฮสปีดเทรน ไล่มาตั้งแต่กรุงเทพ นนทบุรี นครราชสีมา อุบลราชธานี และเชียงใหม่ ซึ่งโมเดลนี้จะช่วยลดต้นทุนการเช่าพื้นที่ในสนามบินที่แพงมาก (ผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ IRR การทำระบบแฟรนไชส์อยู่ระดับ 20%)
 
เราเป็นคนแรกและคนเดียวในเมืองไทยที่ทำระบบแฟรนไชส์รถเช่าระยะสั้นและจำหน่ายรถยนต์มือสอง โดยผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่ต้องลงทุนซื้อรถยนต์แม้แต่บาทเดียว แต่เราจะนำรถยนต์ไปวางขายให้เลย ได้เงินมาเท่าไร ก็เอามาแบ่งเงินกัน 40:60 ซึ่งเป้าหมายการขายและเช่าของเราไม่โหดทุกคนอยู่ได้
 
“โมเดลแฟรนไชส์นอกจากจะทำให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้นแล้วนักลงทุนก็จะรู้ด้วยว่า ดีเอ็นเอของเราไม่ใช่บริษัทรถเช่า แต่เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเซอร์ริสรถยนต์ครบวงจรที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 30%” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยืนยัน
 
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินว่า แนวโน้มกำไรใน 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 2562 คาดว่าจะเห็นพัฒนาการกำไรที่ดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่กำไรโดนกดดันจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาที่บริษัทขยาย Fleet รถเพิ่มขึ้นถึง 6,000 คัน ในปี 2561 ทำให้เกิด Revenue cost mismatching เพราะการปล่อยรถเช่านั้นเป็นธุรกิจที่จะมีกำไรที่ดีในช่วงครึ่งหลังของอายุรถ (Back-load profit project)
 
โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยาย fleet รถเพียงแค่ 3,000 คัน เพราะปัจจุบันบริษัทมีรถใน fleet ถึง 17,000 คัน ซึ่งบริษัทเข้าถึงจุดที่ได้ economy of scale แล้ว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายประกันภัย ซึ่งเป็นค่าใช่จ่ายจำนวนมาก ปัจจุบันบริษัทได้ผู้บริหารท่านใหม่ ซึ่งเข้ามาดูแลเรื่องงานประกันภัยโดยเฉพาะ คาดจะลดต้นทุนค่าประกันภัยได้ประมาณ 10-15% (30-40 ล้านบาท) คาดเห็นผลในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562
 
“กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “รอสะสม” เมื่อเห็นแนวโน้มงบการเงินไตรมาส 2 ปี 2562 ผ่านจุดต่ำสุด (รอดู Earnings preview ช่วงกลางเดือนกค.อีกครั้ง) เรามองว่า Downside เริ่มจำกัดแล้ว ด้วยราคาปัจจุบันลงมาเท่า Book value”
 
อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://knowledge.bualuang.co.th/knowledge-base/maojummaiasap/
 

สายมูต้องรู้! สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด สีไหนรุ่ง สีไหนปังเช็กเลย

ใครที่กำลังมีแพลนจะออกรถใหม่รับปี 2564 นอกจากจะดูฤกษ์วันออกรถแล้ว สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือดูสีรถให้ถูกโฉลกกับตัวเอง เพื่อเสริมดวงชะตา ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าควรออกรถสีไหน เชียงใหม่นิวส์ได้รวบรวมไว้ให้ทุกด้านแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสีช่วยเสริมเสน่ห์ เงินทอง สุขภาพ อำนาจบารมี และอีกมากมายให้ได้ตัดสินใจกัน ถ้าหากใครกำลังจะออกรถเร็ว ๆ นี้ เชียงใหม่นิวส์ขอให้ขับขี่ปลอดภัย เป็นรถขนเงิน ขนทองกันถ้วนหน้าเลยนะคะ
 
คนเกิดวันอาทิตย์
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีบรอนซ์ สีเทา สีทอง เสริมดวงเรื่องเมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ การสนับสนุนเกื้อกูล
– รถสีเขียว เสริมดวงให้คนรักเมตตา อุปถัมภ์ค้ำชู ช่วยเหลือทำให้สะดวกราบรื่นในเรื่องต่าง ๆ
– รถสีม่วงเปลือกมังคุด เสริมดวงด้านศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และดวงเรื่องการเงิน
– รถสีดำ เสริมความน่าเคารพนับถือ เสริมดวงเรื่องทรัพย์สินเงินทอง การเงิน
– รถสีแดงก่ำหรือสีแดงเลือดหมู เสริมสง่าราศี มากด้วยบุญญาบารมี มีอำนาจวาสนา คนนบนอบยำเกรง
– รถสีขาว สีครีม เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีฟ้า สีน้ำเงิน เพราะเป็นกาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันจันทร์
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีชมพู เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีเขียว อำนาจวาสนา บารมี เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับบัญชาคน
– รถสีม่วงเปลือกมังคุด เสริมดวงด้านความสะดวกราบรื่นทุกอย่าง
– รถสีดำ เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีส้ม สีเหลืองแก่ เสริมดวงเรื่องการเงิน ความมั่นคง ทุนทรัพย์ ราคาและคุณค่าที่จะเพิ่มพูนให้แก่ตนเองในปัจจุบันและภายภาคหน้า
– รถสีน้ำเงิน สีทอง เสริมเสน่ห์ ผู้ใหญ่รักเมตตาและเอ็นดู มีแต่สิ่งที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
– รถสีฟ้า เสริมดวงให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
สีที่ห้ามออก ได้แก่
– รถสีแดง เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันอังคาร
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีม่วงแก่ เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีดำ เสริมดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับ
– รถสีบรอนซ์ สีเทา เสริมความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ
– รถสีทอง สีแสด เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีน้ำตาล เสริมดวงด้านความมั่นคงในชีวิต เช่นมั่นคงเรื่อง หลักทรัพย์ ทรัพย์สิน หน้าที่การงาน
– รถสีเขียว เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง
– รถสีแดง สีชมพู เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีขาว สีเหลืองนวล เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันพุธกลางวัน (06.01 – 18.00 น.)
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีน้ำเงิน สีฟ้า เสริมดวงด้านความเคารพนับถือ ยกย่องยอมรับ
– รถสีน้ำตาล สีทอง เสริมดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับ
– รถสีขาว สีเหลืองอ่อน เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีดำ เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีม่วงแก่ เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีเขียว เสริมดวงด้านเสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
สีที่ห้ามออก ได้แก่
– รถสีชมพู สีแสด เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันพุธกลางคืน (18.01 – 06.00 น.)
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีชมพู เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ
– รถสีดำ เสริมดวงด้านความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน
– รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีม่วงแก่ เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีน้ำเงิน สีฟ้า เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีแดง สีน้ำตาล เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีส้ม สีทอง เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันพฤหัสบดี
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีขาว เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ
– รถสีแดง เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีฟ้า เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีเขียว เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีส้ม สีทอง เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีดำ สีม่วง สีน้ำเงิน เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันศุกร์
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีเขียว เสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจ
– รถสีแดง สีทอง เสริมดวงด้านความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน
– รถสีแดง สีชมพู เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีเหลือง เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีดำ เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีน้ำตาล เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีฟ้า สีน้ำเงิน เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีเทา สีบรอนซ์ สีม่วง เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
คนเกิดวันเสาร์
 
สีถูกโฉลก ได้แก่
– รถสีแดง เสริมดวงให้คนยอมรับเชื่อถือและไว้วางใจ
– รถสีชมพู เสริมดวงให้ประสบผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงาน
– รถสีน้ำเงิน สีฟ้า เสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
– รถสีเทา สีบรอนซ์ เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดี
– รถสีทอง สีเหลือง เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่น
– รถสีดำ สีม่วงแก่ เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรา
สีที่ไม่ควรออก ได้แก่
– รถสีเขียว สีแสด เป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
 
อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1551970/

ขับรถฝนตกหนัก เทคนิคการขับรถลุยฝนอย่างไรให้ปลอดภัย

ทุกวันนี้อุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนในบ้านเรานั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการขับขี่ รถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซค์ ด้วยความประมาท แต่อีกสาเหตุหนึ่งก็คือเรื่องของฟ้าฝน โดยเฉพาะสภาพอากาศในบ้านเราที่ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ก็อาจเกิดฝนตกได้ทุกเมื่อ ซึ่งส่งผลให้ถนนลื่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ลดลง ควบคุมรถได้ยากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม การขับรถตอนฝนตกก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หรือเรื่องที่ต้องกังวลหากเรารู้เทคนิคที่ถูกต้อง ซึ่งเทคนิคเหล่านี้แม้ฝนไม่ตกก็สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน   
 
สิ่งที่ควรทำเมื่อต้องขับรถตอนฝนตกหนัก
1. ลดความเร็ว
นี่คือสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อต้องขับรถตอนฝนตก โดยเฉพาะฝนที่เพิ่งตกใหม่ ๆ เพราะฝนจะลงมาผสมกับคราบน้ำมันหรือฝุ่นต่าง ๆ บนพื้นถนน ซึ่งอาจทำให้มีความลื่นมากกว่าแค่พื้นเปียกธรรมดา การขับรถให้ช้าลงจะช่วยให้สามารถควบคุมรถ หรือการเบรกก็จะทำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
 
2. เปิดไฟส่องสว่าง
หากต้องขับรถตอนฝนตกหนัก ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง ควรเปิดไฟหน้าเพื่อเพิ่มการมองเห็นทางด้านหน้า เพื่อให้รถคันที่ตามหลังสังเกตเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ควรใช้ไฟสูงหรือไฟตัดหมอก
 
3. เว้นระยะห่างให้มากขึ้น
เดิมทีในการขับรถปกติเราต้องเว้นระยะจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉิก แต่ขณะที่ฝนตกเราจำเป็นต้องเพิ่มระยะห่างมากเป็น 2 เท่า เผื่อระยะในการเบรกบนพื้นถนนที่มีความลื่นมากขึ้น และยังเป็นการหลีกเลี่ยงน้ำที่อาจกระเด็นมาบดบังทัศนวิสัยการมองเห็นของเราได้
 
4. ใช้เบรกอย่างระมัดระวัง
เมื่อต้องขับรถในสภาพพื้นที่เปียก ระบบเบรกอาจไม่ตอบสนองได้ดีเหมือนกับตอนขับขี่บนพื้นถนนที่แห้ง การเหยียบเบรกแบบกะทันหันอาจไม่ใช่เรื่องที่ดี เราควรจะใช้การชะลอความเร็วช่วยแล้วค่อย ๆ แตะเบรกทีละนิดเพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
 
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อต้องขับรถตอนฝนตก
1. ไม่เปิดไฟผ่าหมากหรือไฟฉุกเฉิน
ความเชื่อผิด ๆ ที่หลายคนชอบทำเมื่อต้องขับรถตอนฝนตกนั่นคือ การเปิดไฟผ่าหมาก หรือไฟฉุกเฉิน เพื่อให้รถคันอื่น ๆ สังเกตเห็นเราได้ชัดเจนขึ้น แต่จริง ๆ แล้วคือสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะไฟฉุกเฉินควรเปิดเฉพาะเวลาที่รถเกิดปัญหาเท่านั้น ไม่ควรเปิดตอนฝนตกหนัก เพราะอาจทำให้รถคันอื่นเข้าใจผิดได้ (คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมาก ควรเปิดตอนไหน ใช้อย่างไรไม่ผิดกฎหมาย)
 
2. หลีกเลี่ยงการขับลงแอ่งน้ำ
ถนนในบ้านเราส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาน้ำขังทุกครั้งที่ฝนตก ซึ่งอาจเกิดจากขยะอุดตันท่อระบายน้ำ หรือถนนชำรุดเป็นหลุม-บ่อ เราจึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถลงแอ่งน้ำดังกล่าวเพื่อป้องกันรถเหินน้ำ หรือน้ำกระเด็นไปบดบังการมองเห็นของผู้ร่วมทางและผู้ใช้ทางเท้า
 
3. ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศเมื่อต้องลุยน้ำ
ทุกครั้งที่ต้อง ขับรถลุยน้ำ ที่มีความลึก เราควรที่จะปิดเครื่องปรับอากาศหรือระบบไฟฟ้าต่าง ๆ และถ้าหากเครื่องยนต์ดับระหว่างขับลุยน้ำ เราไม่ควรสตาร์ตเครื่องในทันทีเพราะเครื่องยนต์อาจเกิดความเสียหายได้ 
 
4. อย่าชะล่าใจแม้ใช้ยางรถยนต์แบบลุยน้ำได้ดี
บางคนอาจมั่นใจในคุณสมบัติของยางรถยนต์ที่เราใช้ว่ามีคุณสมบัติยึดเกาะและรีดน้ำได้เป็นอย่างดี จึงยังคงใช้ความเร็วสูงแม้ฝนตก แต่ไม่ว่ายางจะมีคุณสมบัติที่ดีแค่ไหน หากเราขับเร็วจนเกินไปก็อาจลื่นไถลหรือเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน
 
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ต้องขับขี่ยานพาหนะต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพถนนแห้ง หรือถนนเปียก เราก็ควรใช้ความระมัดระวัง ไม่ประมาท เคารพกฎจราจร มีน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง และไม่ควรใช้ความเร็วสูงจนเกินไป ควรใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ก็สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน รวมถึงยังต้องเตรียมตรวจสอบสภาพรถให้พร้อม เช็กรถหน้าฝน เพื่อความมั่นใจในระหว่างการเดินทาง
 
อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://car.kapook.com/view240558.html